Nesting Optimizer
เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการคำนวณหาวิธีการตัดชิ้นงานแบบ 1 มิติ (ตัดความยาว)
และ 2 มิติ (ตัดรูปสี่เหลี่ยม) สามารถใช้ได้ กับวัสดุหลายรูปแบบ
เช่น เหล็กเส้น ท่อนไม้ ท่อน้ำ กระจก ไม้อัด แผ่นโลหะ รวมไปถึงแผ่นกระดาษ
โดยโปรแกรมมุ่งคำนวณหาวิธีการตัดเพื่อทำให้เกิดการใช้งานวัตถุดิบให้เกิด
ประสิทธิภาพสูงสุด
โปรแกรมมีรายงานที่จำเป็นต่างๆให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบตามความต้องการ
รวมไปถึงความสามารถในการนำเข้าและส่งออกข้อมูลผ่านไฟล์ xls
คุณสมบัติต่างๆของโปรแกรมเป็นดังนี้
ความสามารถทั่วไป
1. สามารถคำนวณตัดได้ทั้ง 1
และ 2 มิติ ในโปรแกรมเดียว
2. สามารถคำนวณการตัดชิ้นงานต่อครั้งได้ไม่จำกัดขนาด และจำนวน
ทั้งชิ้นงานและวัตถุดิบ
3. สามารถคำนวณการตัดที่มีวัตถุดิบต่างชนิด พร้อมกันได้
4. รองรับขนาดเป็นเลขทศนิยม 4 หลัก
5. เมนูแสดงผล 2 ภาษา (ไทย/อังกฤษ)
6. สามารถกำหนดหน่วยวัดได้เองอิสระในแต่ละงานตัด
7. มีระบบแฟ้มช่วยภาษาไทย
8. ส่งออก/นำเข้า ข้อมูลผ่านไฟล์ xls
การคำนวณ
1. สามารถควบคุมทิศทางการตัดชิ้นงาน
ระหว่างชิดซ้าย กับ ชิดบนได้ (สำหรับงานตัด 2 มิติ)
2. สามารถคำนวณต้นทุนของชิ้นงานจากราคาวัตถุดิบ
3. สามารถเลือกระดับการคำนวณได้ 3 ระดับ
4. สามารถเลือกวิธีการคำนวณระหว่าง คำนวณจำนวนวัตถุดิบที่ต้องในน้อยที่สุด
หรือ มูลค่ารวมของวัตถุดิบที่ต้องใช้น้อยที่สุด
ความสามารถพิเศษ
1. สามารถผสานชิ้นงานที่มีขนาดเท่ากันให้เป็นรายการเดียวกัน
เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการประมวลผล (Merge part)
2. สามารถสั่งให้ซอฟต์แวร์ไปไปเลือกวัตถุดิบที่ตรงกับชิ้นงานที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ
(Automatic material)
3. สามารถเพิ่มข้อมูลวัตถุดิบและชิ้นงาน ได้โดยตรงที่หน้างานตัด
กรณีที่ไม่ต้องการเก็บข้อมูลวัตถุดิบและชิ้นงานในฐานข้อมูล
(Direct Input)
4. สามารถคำนวณหาจำนวนวัตถุดิบที่ต้องใช้ จากรายการชิ้นงานที่กำหนดให้
(Automatic material quantity)
5. สามารถปรับปรุงจำนวน วัตถุดิบคงเหลือ (Update stock)
6. สามารถส่งกลับเศษวัตถุดิบที่เหลือกลับไปเป็นวัตถุดิบชิ้นใหม่ได้
ฐานข้อมูลชิ้นงาน
1. สามารถกำหนดรหัสและรายละเอียดของชิ้นงาน
2. สามารถกำหนดขนาดของแต่ละชิ้นงานไปหลายรายการ
3. สามารถกำหนดสีของชิ้นงานแต่ละแผ่นได้โดยอิสระ
4. สามารถจำกัดการพลิกหมุนของชิ้นงาน 2 มิติได้ (กรณีที่ต้องการจำกัดทิศทางการตัด)
5. สามารถนำเข้า/ส่งออกข้อมูลชิ้นงานผ่านไฟล์ xls
ฐานข้อมูลวัตถุดิบ
1. สามารถกำหนดรหัสและรายละเอียดของวัตถุดิบ
2. สามารถกำหนดขนาดของแต่ละวัตถุดิบไปหลายรายการ
3. สามารถกำหนดราคาของวัตถุดิบได้
4. กำหนดจำนวนวัตถุดิบคงเหลือ เพื่อนำมาตรวจสอบจำนวนที่ต้องการใช้งานได้
5. สามารถนำเข้า/ส่งออกข้อมูลวัตถุดิบผ่านไฟล์ xls
ฐานข้อมูลรอยตัด
1. สามารถกำหนดขนาดรอยตัดอิสระ
2. สามารถนำเข้า/ส่งออกข้อมูลขนาดรอยตัดผ่านไฟล์ xls
การแสดงผล
1. สามารถเลือกซ่อนหรือแสดง
รหัสชิ้นงานและขนาดชิ้นงาน
2. สามารถกำหนดรูปแบบของทศนิยมในการแสดงขนาดชิ้นงาน
3. สามารถกำหนดการแสดงเส้นพิกัดบนแผ่นงานหลักได้
4. สามารถเลือกการแสดงผลแบบสีหรือขาวดำได้ (ช่วยประหยัดค่าหมึกพิมพ์
ในกรณีที่ต้องการพิมพ์รายงานแบบภาพขาวดำ)
5. สามารถกำหนดสีของเส้นรอยตัด
6. สามารถกำหนดสีของวัตถุดิบที่ไม่ถูกใช้งาน
7. สามารถเลือกดูเฉพาะชิ้นงานที่ต้องการ
รายงาน
1. มีรายงานที่จำเป็นให้เลือกใช้
6 รูปแบบ
2. มีรายงานการตัดแบบไฟล์ xls เพื่อการส่งต่อข้อมูลไปใช้ต่อ
3. สามารถกำหนดชื่อและที่อยู่ผู้ใช้เพื่อทำเป็นหัวรายงานได้
หลายชุด
และความสามารถอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึง
ตัวอย่างลูกค้าปัจจุบันของ Nesting Optimizer
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บริษัท ไพรเวท
อินเตอร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด
บริษัท ไฮเทค อินดัสเตรียล เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย จำกัด
|
|
ความพึงพอใจของผู้ใช้เป็นสิ่งที่ทางผู้พัฒนาคาดหวังมากที่สุด
ดังนั้นจึงตัดสินใจกำหนด สิทธิ์การปรับปรุงรุ่น (UPGRADE)
ฟรี
ซึ่งการปรับปรุงรุ่นแต่ละครั้งจะทำการปรับปรุง คุณสมบัติต่างๆของโปรแกรมให้มีประสิทธิภาพต่างๆสูงขึ้น
เช่น ประสิทธิภาพการคำนวณ
รูปแบบการแสดงผล และปรับปรุงการใช้งานต่างๆตามที่ได้รับการแนะนำติชมจากผู้ใช้ทุกท่าน